วันพฤหัสบดีที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2552

Home เปิดหน้าต่างโลก

สารคดียอดเยี่ยมแห่งปีที่ ญานน์ อาร์ทูส์-แบร์ทรองด์ นอกจากทำหน้าที่กำกับแล้วยังร่วมเขียนบทพร้อมกับใช้เวลาในการสร้างร่วม 3 ปี เพราะต้องเดินทางหาโลเกชั่นเพื่อถ่ายทำให้ได้ภาพแปลกตากว่า 54 ประเทศ เนื่องจากเป็นภาพยนตร์ที่แสดงออกถึงความรับผิดชอบต่อโลก จึงต้องตระเวนถ่ายทำเพื่อเก็บสต๊อกภาพที่มีความยาวถึง 488 ชั่วโมงแล้วนำมาตัดต่อให้เหลือเพียง 120 นาทีสำหรับภาพยนตร์สารคดีเรื่องเยี่ยม โฮม (Home) เปิดหน้าต่างโลก ที่ เอ็มพิคเจอร์ส เตรียมนำ มาให้แฟนๆ ในไทยได้ชมกันเพราะถึงเวลาที่มนุษย์ทุกผู้คนต้องรู้จักปกป้องและรักษาสิ่งแวดล้อมโลกก่อนที่จะสายเกินไป เนื่องจากมนุษย์ได้ทำลายสมดุลธรรมชาติมามากมายแล้ว
คุณเคยเห็นโลกภาคพื้นดิน ผ่านท้องฟ้าสีครามหรือไม่ ผืนน้ำใสสะอาด ตึกรามบ้านช่อง ป่าไม้เขียวขจี เสมือนเรากำลังโอบกอดทั้งโลกไว้ได้ด้วยสองมือของเรา "ยานน์ อาร์ทัส-เบอร์ทรานด์" กำลังแสดงให้เราเห็นถึงโลกที่เขาเชื่อว่ายังมีอีกหลายคนที่ยังไม่เคยพบ มุมมองที่มนุษย์เดินดินไม่มีวันได้เห็น โลกที่เหมือนเพชรสีน้ำเงินลอยอยู่ในห้วงแห่งอวกาศอันมืด ทำให้เราได้เห็น ได้เข้าใจและตระหนักถึงภัยพิบัติที่กำลังจะเกิดขึ้นผ่านช่วงเวลายาวนานจนทรัพย์สมบัติที่ชื่อว่า "ธรรมชาติ" กำลังจะสูญสลายไปด้วยมือของเราและนั่นอาจหมายถึงสัญญาณที่เตือนว่าคงถึงเวลาที่เราจำเป็นต้องปกป้อง "บ้าน" หลังใหญ่แห่งนี้ไว้ด้วยตัวของเราเอง
ในตลอด 200,000 ปีบนโลก มนุษยชาติพลิกผันดุลยภาพของดาวดวงนี้ ซึ่งกว่าจะเข้ารูปเข้ารอยก็ต้องอาศัยวิวัฒนาการเกือบ 4 พันล้านปี ทุกวันนี้คือเวลาแห่งการชดใช้อย่างสาสม และสายเกินกว่าจะคร่ำครวญ มนุษยชาติเหลือเวลาอีกไม่ถึง 10 ปีเพื่อกลับตัวกลับใจ เพื่อตระหนักถึงความอุดมสมบูรณ์ของโลกที่สูญสิ้นไปทุกหย่อมหญ้า และเพื่อเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการผลาญทรัพยากร
นอก จากจะได้เห็นฟุตเทจแปลกตาซึ่งรวบรวมมาจากเหนือพื้นดินของกว่า 50 ประเทศ รวมถึงได้ร่วมแบ่งปันความพิศวงสงสัยและความกังวลใจ ญานน์ อาร์ทูส์-แบร์ทรองด์ ยังหวังว่า ภาพยนตร์เรื่องนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นให้เราร่วมแรงร่วมใจกันฟื้นฟูบ้านหลัง ใหญ่ขึ้นมาอีกครั้ง และนี่คือข้อมูลที่คุณควรได้รู้ไว้
- 20% ของประชากรโลกถลุงทรัพยาการของดาวดวงนี้ไปถึง 80%- ทั้งโลกใช้จ่ายด้านยุทโธปกรณ์มากกว่านำเงินไปช่วยเหลือประเทศกำลังพัฒนาถึง 12 เท่า- 5 พันคนต่อวันเสียชีวิตเพราะน้ำดื่มที่ปนเปื้อน และ 1 พันล้านคนไม่มีน้ำสะอาดไว้ดื่ม- 1 พันล้านคนกำลังหิวโหย- กว่า 50% ของเมล็ดธัญพืชที่ซื้อขายกันทั่วโลกใช้เป็นอาหารสัตว์และผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพ- พื้นที่กสิกรรมเสื่อมสภาพไปถึง 40%- ทุกๆ ปี พื้นที่ป่าสูญหายไป 13 ล้านเฮกตาร์- 1 ใน 4 ของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม, 1 ใน 8 ของนก และ 1 ใน 3 ของสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำใกล้จะสูญพันธุ์ สัตว์หลายๆ สปีชี่ตายเร็วกว่าอายุขัยตามธรรมชาติถึง 1 พันเท่า- ผลิตผลทางการประมงลดน้อยลง สูญสิ้น หรือเสี่ยงต่อการสูญสิ้นถึง 75%- ตั้งแต่เริ่มบันทึกสถิติ อุณหภูมิเฉลี่ยในช่วง 15 ปีที่ผ่านมานับว่าสูงที่สุด- แผ่นน้ำแข็งขั้วโลกบางลงถึง 40% ในระยะเวลา 40 ปี- ก่อนถึงปี 2050 คาดว่าจะมีผู้ลี้ภัยจากสภาพอากาศอันเลวร้าย 200 ล้านคน


การเก็บเกี่ยว ข้าวสาลี ในเมืองลามาร์ รัฐโคโลราโด้ อเมริกา
วิธีการนำเสนอ หนังเรื่องนี้ เด่นชัดมากในเรื่องของมุมกล้อง สีสัน และก็ Computer Graphicสวย เนียน ดูเป็นธรรมชาติ การถ่ายทำ ส่วนใหญ่ก็จะถ่ายบนเฮลิคอปเตอร์ กล้องที่ใช้ถ่ายทำ Cineflex สามารถซูมได้ไกลมาก และยังชัดมากอีกด้วย ทำให้ภาพยนตร์ สารคดี เรื่องนี้มีภาพที่สวยงามและคมชัดเป็นอย่างยิ่ง การถ่ายทำฟุตเทจทางอากาศยังอยู่ภายใต้เงื่อนไขทางเทคนิคอีกมากมาย เริ่มจากต้องใช้กล้องตามที่กำหนด นั่นคือ Gyro-Stabilized Cineflex HD ซึ่งชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าเป็นกล้องที่ให้ภาพราวกับการเคลื่อนไหวของเครนไม่ว่าจะอยู่ในสภาวะสั่นสะเทือนหรือไม่ก็ตาม แรกเริ่มเดิมที กล้องรุ่นนี้พัฒนาขึ้นมาโดยวัตถุประสงค์ทางการทหาร กล่าวคือ เพื่อช่วยในการค้นหาเป้าหมาย มันจึงซูมได้ในระยะไกลมาก และยังเปลี่ยนเทปบันทึกภาพได้ทันทีบนเฮลิคอปเตอร์และภาพยนตร์สารคดีเรื่องเยี่ยมด้วยมุมมองการมองเห็นโลกอันสวยงามผ่านสายตาของช่างภาพชาวฝรั่งเศสฝีมือระดับโลกอย่าง ยานน์ อาร์ทัส-เบอร์ทรานด์ ช่างภาพทางอากาศที่เคยเปิดนิทรรศการเผยแพร่ภาพถ่ายของโลก

ภาพกราฟฟิกของภูเขาน้ำแข็งที่เริ่มหลอมละลายที่ไซบีเรีย, รัสเซีย

สิ่งที่ชอบในภาพยนตร์สารคดี เรื่องนี้ก็คือ ภาพสวย สีสีนดูสวยงาม และยังแฝงไว้ซึ่งเนื้อหา ดีๆ อีกมากมาย เมื่อได้ชมภาพยนตร์เรื่องนี้แล้วก็จะตระหนักถึงการใชทรัพยากรทางธรรมชาติเพิ่มมากขึ้น เพราะทุกวันนี้ มนุษย์ได้ทำลายทรัพยากรธรรมชาติไปจนแทบจะไม่เหลือ ภาพที่ได้จากภาพยนตร์เรื่องนี้มัน สะท้อนออกมาหมดเลย มนุษยชาติเหลือเวลาอีกไม่ถึง 10 ปีเพื่อกลับตัวกลับใจ เพื่อตระหนักถึงความอุดมสมบูรณ์ของโลกที่สูญสิ้นไปทุกหย่อมหญ้า และเพื่อเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการผลาญทรัพยากร


สภาพซากเศษตกค้างของการขุดเจาะบ่อน้ำมัน ในฟอร์ท แมคเมอร์เรย์, อัลเบอร์ต้า ประเทศแคนาดา
สิ่งที่ไม่ชอบ จากภาพยนตร์ เรื่องนี้ก็คือ บางฉาก ดูไม่ค่อยมีความต่อเนื่องกันเท่าไหร่ ดูแล้วมันไม่ค่อยลื่นไหลและก็มีการดำเนินเรื่อง ที่ค่อนข้างช้า ดูนานๆแล้วอาจะง่วงได้ ส่วนเรื่องภาพเรื่อง Graphic แล้ว ทุกอย่างลงตัวสวยงาม
ข้อเสนอแนะ ก็คือ เป็นภาพยนตร์ที่ดูแล้วไม่ค่อยตื่นเต้นเท่าไร มันดูเอื่อยๆ ไปนิดนึง น่าจะเพิ่มความตื่นเต้นเข้ามาอีกหน่อยเพราะถ้าดู ไปนานๆ มันก็จะเริ่มรู้สึกน่าเบื่อ หรืออาจจะง่วงนอนได้ แต่องค์ประกอบโดยรวมของภาพยนต์ เรื่องนี้ก็ลงตัวดีแล้ว ภาพสวย มุมกล้องสวยงาม ดูแล้วรู้สึกว่าต้องช่วยกันฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติก่อนที่มันจะหมดไป



keywords 10 คำ
1.มนุษย์
2.ทรัพยากร
3.น้ำดื่ม
4.เชื้อเพลิง
5.สถาปัตยกรรม
6.วัฏจักร
7.ความเจริญ
8.ทำลาย
9.ธุรกิจ
10.ก่อสร้าง



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น